Monday, February 28, 2011

ดอกโมกข้างบ้าน

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกโมกข้างบ้านลอยมาแตะจมูก ด้วยอากาศยามเย็นที่ไม่ร้อนมากจนเกินไปประกอบกับแสงแดดอ่อน ๆ สีส้ม กระตุ้นให้หัวใจถ่ายภาพให้เริ่มทำงาน จึงรีบวิ่งไปหยิบกล้อง  DSLR Nikon D40x ตัวแรก กับเลนส์ 17-55 มา เพราะเดี๋ยวก็ต้องไปงานสังสรรค์รุ่นต่อ  เดินวนไปวนมา นึกในใจว่าจะถ่ายยังไงให้สวยวะเนี่ย สุดท้ายเลยได้มุมเสย ไม่แปลกตาจนเกินไป และก็ไม่ค่อยมีคนถ่ายมากนัก คุมแสงดี ๆ อย่าให้ส่วน high light หลุดไปมากนักเพราะจะทำให้เสียรายละเอียดไม่สวยงามได้

การจัดวางองค์ประกอบภาพก็ไม่ดีเท่าที่ควรนักเพราะดันหยิบมาแต่เลนส์มุมกว้าง สุดท้ายเลยได้ภาพลักษณะเป็นกลุ่มก้อนของดอกโมกมา เรื่องแสงสียังไม่ค่อยถูกในนักแต่คราวหน้าจะแก้ตัวใหม่นะจ๊ะ พ่อดอกโมก
...................................................................................................................................
ชื่อสามัญ Moke
ชื่อวิทยาศาสตร์ Wrightia religiosa. 
ตระกูล APOCYNACEAE
ชื่ออื่น โมกหลวง พุทธรักษา พุด

ลักษณะทั่วไปของโมก

โมกเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 5-12 เมตร ผิวเปลือกสีนำตาลดำ ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็ก ๆ สีขาวประทั่วต้นแตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นไม่เป็นระเบียบใบเป็นใบเดียวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบลักษณะใบเป็นรูปไข่ รี ปลายใบมนแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบบางสีเขียว ขนาดใบกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ อยู่ตามปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีดอก 4-8 ดอก ลักษณะดอกจะคว่ำหน้าลงสู่พื้นดินมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีขาวกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่มีขนาด ประมาณ 2 เซนติเมตร ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอกจะออกมาเป็นคู่ ลักษณะโค้งงอเข้าหากัน ภายในมีเมล็ดเรียงอยู่เป็นจำนวนมาก ขนาดความยาวของฝักประมาณ 10-15 เซนติเมตร

การเป็นมงคลของโมก
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์เพราะโมกหรือโมกข์หมายถึงผู้ที่หลุดพ้นด้วยทุกข์ทั้งปวง สำหรับส่วนของดอกก็มีลักษณะ สีขาว สะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดวัน นอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองปกป้องภัยอันตรายเพราะต้นโมกบางคนเรียกว่าต้นพุทธรักษาดังนั้นเชื่อว่าต้นโมกสามารถคุ้มกันรักษาความปลอดภัยทั้งปวงจากภายนอกได้เช่นกัน และยังเชื่ออีกว่าส่วนของเปลือกต้นโมกสามารถใช้ป้องกันอิทธิฤทธิ์ของพิษสัตว์ต่างๆ ได้

ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นโมกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์

การปลูกโมก 

การปลูกมี 2 วิธี
  1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ย หมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้ เพื่อประดับบริเวณหน้าบ้าน
  2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ขุยมะพร้าว : ดินร่วนอัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางบ้างแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่มเพราะการเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้น และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เหสื่อมสภาพไป


การดูแลรักษาโมก


  • แสง                         ต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
  • น้ำ                            ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
  • ดิน                          ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง
  • ปุ๋ย                          ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
  • การขยายพันธ์         การตอน การเพาะเมล็ด การปักชำ วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด การปักชำ
  • โรคและศัตรู             ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร

ข้อมูลโมกจาก ไม้ประดับออนไลน์
ภาพโดย m.prayote@gmail.com





No comments:

Post a Comment